เลือกใช้บริการ บริษัทรับสร้างบ้าน อย่างไรดี
สำหรับผู้อยู่ระหว่างตัดสินใจ ว่าจะเลือกใช้บริการ บริษัทรับสร้างบ้าน รายใดดีนั้น ก่อนอื่นควรหันมาศึกษาข้อมูล ก่อนเลือกใช้บริการรับสร้างบ้านอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันการทิ้งงาน หรือได้บ้านแต่ไม่ตรงตามสัญญาที่ตกลงกันไว้ ข้อมูลสนับสนุน และควรศึกษาก่อน ตัดสินใจเลือกใช้บริการ บริษัทรับสร้างบ้าน ควรเริ่มตั้งแต่การศึกษาข้อมูล และเก็บรายละเอียดของผู้ให้บริการรับสร้างบ้านในตลาด ว่ามีใครบ้าง และแต่ละรายนำเสนอจุดเด่น ด้านบริการในเรื่องใดบ้าง เพื่อเก็บเป็นข้อมูลวิเคราะห์ในลำดับต่อไป ส่วนใหญ่มักให้ข้อมูลเกี่ยวกับจุดเด่น ของการให้บริการ การสร้างภาพลักษณ์องค์กรเรื่องความเป็นมืออาชีพ ในธุรกิจนี้ การไม่ใช้ผู้รับเหมาช่วง การนำเสนอรูปแบบบ้านหลากหลาย บางรายมีให้เลือกเกือบ 1,000 รูปแบบ ระดับราคาการให้บริการคิดเป็นตารางเมตร เพื่อความสะดวกต่อการนำไปเปรียบเทียบกับผู้ให้บริการรายอื่น ผลงานการก่อสร้างให้กับลูกค้า รวมถึงการให้บริการพิเศษด้านแหล่งเงินทุนสนับสนุน กรณีที่ผู้ใช้บริการต้องการ
หลังจากผ่านการพิจารณาในเบื้องต้น เพื่อคัดเลือก บริษัทรับสร้างบ้าน ที่น่าสนใจ และมีการนำเสนอรูปแบบบ้านที่ตรงใจแล้ว จากนั้นจึงจะเข้าสู่กระบวนการเจรจาเพื่อหาข้อตกลงที่ดีที่สุดกับผู้ใช้บริการแต่ละราย การเลือกรับข้อมูล เพื่อการพิจารณากับผู้ให้บริการรับสร้างบ้าน แต่ละรายในกลุ่มที่ได้รับการคัดเลือกไว้เบื้องต้น เป็นขั้นตอนที่ควรกระทำอย่างต่อเนื่อง และไม่ควรเป็นไปอย่างเร่งรีบ เพราะหากตัดสินใจโดยศึกษาข้อมูลไม่ถ้วนถี่ จะก่อให้เกิดข้อยุ่งยากตามมาในภายหลัง
1 ลำดับแรก เริ่มจากการนำเสนอแนวคิด และรูปแบบบ้านที่ต้องการหารือ กับผู้ให้บริการ บริษัทรับสร้างบ้าน ว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด ในระยะเวลาที่กำหนด จากนั้นหาข้อสรุปของรูปแบบบ้าน ขนาดของงานก่อสร้าง และงบประมาณที่ต้องใช้ ข้อมูลส่วนนี้ต้องมาจากความต้องการที่แท้จริง ของเจ้าของบ้านเป็นสำคัญ เมื่อลงลึกในรายละเอียดแล้ว จะมีประเภทของข้อมูลจำนวนมาก ตั้งแต่ในครอบครัวมีผู้อยู่อาศัยกี่คน และอยู่ในวัยใดบ้าง เพื่อกำหนดจำนวนห้องนอน ห้องเอนกประสงค์ ห้องครัว ฯลฯ จากนั้นให้สรุปข้อมูลงานก่อสร้าง และขนาดโครงการ เพื่อคำนวณต้นทุนออกมาเป็นตารางเมตร เมื่อได้ข้อสรุปเกี่ยวกับพื้นที่ก่อสร้าง และต้นทุนการก่อสร้างคร่าว ๆ แล้ว จะเข้าสู่การพูดคุยเกี่ยวกับแผนงานก่อสร้าง ระยะเวลาเริ่มต้น และสิ้นสุด โครงการ งบประมาณที่ต้องใช้ทั้งหมด ข้อกำหนด หรือเงื่อนไขพิเศษกรณีที่ผู้ว่าจ้างต้องการแก้ไขเพิ่มเติม หรือการชดใช้กรณีผู้ให้บริการรับสร้างบ้านผิดสัญญา หรือไม่ทำตามที่ตกลงกันไว้ข้อมูลที่กล่าวมาจะรวบรวมอยู่ในสัญญาว่าจ้าง ครอบคลุมตั้งแต่เริ่มให้บริการจนก่อสร้างแล้วเสร็จ การกำหนดวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง มูลค่างานก่อสร้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะกำหนดจ่ายชำระเป็นงวดงาน ตามความคืบหน้าของงานในแต่ละช่วง สัญญาจะกำหนดให้มีการตรวจรับงานเป็นระยะเพื่อควบคุมความคืบหน้าของงานก่อสร้าง ปัจจุบันมีการให้บริการสนับสนุนด้านการเงิน จากธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำหรับผู้ที่มีที่ดินของตัวเอง และต้องการสินเชื่อเพื่อสร้างบ้าน ผู้ใช้บริการควรหาข้อมูลและข้อสรุปในเกณฑ์ดังกล่าวกับผู้ให้บริการรับสร้างบ้าน อย่างน้อย 2-3 ราย เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง ต้นทุนการก่อสร้าง ความสะดวกและความสบายใจในการร่วมงานระหว่างกัน คุณภาพของงาน และตัดสินใจเลือกรายที่ให้ข้อเสนอที่ดีที่สุด บนความพึงพอใจสูงสุด
2 เมื่อได้ข้อตกลงว่าจะเลือกใช้บริการ ของผู้ให้บริการรับสร้างบ้านรายใดแล้ว ก่อนตกลงเซ็นสัญญา จะต้องพิจารณาเรื่องชื่อเสียง และผลงานที่ผ่านมา ความสามารถในงานก่อสร้างของผู้ให้บริการ การตรวจเช็คใบอนุญาตก่อสร้าง และใบอนุญาตทางธุรกิจ ชื่อเสียงและผลงานของผู้ให้บริการ ลักษณะการทำงานเป็นผู้ก่อสร้างเอง หรือใช้ลักษณะของผู้รับเหมาช่วง ข้อมูลเหล่านี้ควรนำมาพิจารณาเป็นลำดับต้นๆ ก่อนจะพูดคุยกันถึงรายละเอียดของงาน
ความหลากหลายของรูปแบบบ้านที่มีให้เลือก จำนวนร้านค้าตัวแทนจำหน่ายวัสดุก่อสร้างในเครือข่ายที่พร้อมให้การสนับสนุนด้านวัสดุ ก็มีส่วนสำคัญที่ต้องนำมาพิจารณาเช่นกัน
3 การตรวจรับมอบบ้าน เมื่อสิ้นสุดสัญญา และมีการก่อสร้างบ้านแล้วเสร็จ จะเริ่มโดยการจดรายละเอียดของงานแต่ละส่วน ตั้งแต่การเดินสายไฟ ตรวจดูเพดาน ผนัง ความเรียบร้อยของการฉาบปูน และความละเอียดของการทาสี หากพบข้อบกพร่อง ควรทำเครื่องหมาย เพื่อแจ้งกับผู้ให้บริการได้รับทราบ และดำเนินการแก้ไขให้เรียบร้อย นอกจากนี้ ยังมีอีกส่วนที่ควรจะตรวจสอบก็คือ ความเรียบร้อยในการติดตั้งประตูหน้าต่าง อุปกรณ์เปิดปิด รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้าน จากนั้นตรวจดูความเรียบร้อยของพื้น ซึ่งแตกต่างกันไปตามวัสดุที่ใช้ปู อาทิ ปูนซีเมนต์ ไม้ ว่ามีรอยต่อหรือมีรอยเปื้อนที่เป็นปัญหา หรือไม่ เมื่อได้ตรวจสอบรายการทั้งหมดแล้ว หากมีการแก้ไข ต้องกำหนดระยะเวลาที่แน่ชัดในการดำเนินการ ส่วนใหญ่งานก่อสร้างทุกชนิด จะมีช่วงเวลารับประกันผลงานให้ในระยะเวลา ตามประเภทของงาน แต่ละงาน จากนั้นก็นัดทำสัญญาส่งมอบงาน
การพิจารณาอย่างรอบคอบ ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดสรรผู้ให้บริการรับสร้างบ้าน ไปจนถึงกระบวนการก่อสร้าง และส่งมอบงานแล้วเสร็จ เป็นสิ่งที่ผู้ใช้บริการหรือผู้บริโภคต้องดำเนินการอย่างเข้มงวด เพื่อเลี่ยงปัญหายุ่งยากที่ จะตามมาในภายหลัง และเพื่อให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุด ในการมีบ้านซึ่งเป็นความฝันสูงสุดในชีวิต