แว่นกรองแสงสีฟ้า ไอเทมปกป้องสายตา สำหรับชาวออฟฟิศ

แว่นกรองแสงสีฟ้า ไอเทมปกป้องสายตา สำหรับชาวออฟฟิศ

ดวงตา เป็นอวัยวะอวัยวะบอบบางและละเอียดอ่อนที่ช่วยในการมอง การอ่าน การเขียน และเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ผ่านการมอง หากใช้งานอย่างเดียวโดยไม่ดูแลให้ดี สายตาอาจเสื่อมสภาพจนไม่สามารถใช้งานได้ดีแบบเดิม และยิ่งปัจจุบันผู้คนต้องข้องเกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีผลต่อสายตามากมาย โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนที่ต้องทำงานกับหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือใช้สมาร์ทโฟนเรื่องงาน เล่นเกม อ่านนิยาย หรือดูซีรีส์ ซึ่งหน้าจออุปกรณ์เหล่านี้ส่งผลกระทบต่อดวงตา เนื่องจากแสงสีฟ้าจากหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สามารถเข้าไปถึงส่วนจอประสาทตา ทำให้สายตาแย่ลง ด้วยเหตุนี้เองหลายคนต้องหาวิธีป้องกันสายตาให้ห่างไกลจากแสงสีฟ้า และไอเทมที่หลายคนเลือกใช้คือ “แว่นกรองแสงสีฟ้า” แต่ยังมีข้อสงสัยว่าแว่นกรองแสงช่วยถนอมสายตาได้จริงหรือ
แสงสีฟ้าคืออะไร อันตรายจริงไหม

แสงสีฟ้าหรือบลูไลท์ (Blue Light) เป็นแสงที่มีพลังงานใกล้เคียงกับรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) และทุกวันนี้แสง UV ที่สายตามองเห็นได้นั้น ไม่ได้จำกัดแค่แสงจากธรรมชาติอย่างดวงอาทิตย์ (แสงแดด) ที่มีปริมาณของแสงที่มีความเข้มมากที่สุด ในแต่ละวันเราสามารถเจอแสงสีฟ้าจากอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น หลอดไฟ LED ไฟหน้ารถ จอโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต เรียกว่ารอบตัวเราเต็มไปด้วยแสงสีฟ้านั่นเอง

และสำหรับคำถามที่ว่า แสงสีฟ้า อันตรายต่อสายตาจริงไหม คำตอบคือ แสงสีฟ้ามีทั้งผลดีและผลเสียต่อดวงตาจริง แต่การเลือกใช้งานคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตก็คงเป็นเรื่องยาก ทางเดียวที่ทำได้คือต้องหาวิธีป้องกันดวงตาจากแสงสีฟ้าสุดอันตรายเหล่านี้แทน

ผู้หญิงนั่งดูสถิติทางการเงินบนแล็ปท็อป

รังสียูวีจากแล็ปท็อปส่งผลกระทบต่อดวงตา

แสงสีฟ้า ส่งผลเสียกับดวงตาอย่างไร

แสงสีฟ้าส่งผลเสียโดยตรงกับดวงตา เนื่องจากเป็นแสงที่สามารถมองเห็นได้ประกอบกับดวงตาของเราไม่อาจกรองแสงสีฟ้าได้หมด ทำให้ได้รับผลกระทบจากแสงสีฟ้าอย่างเลี่ยงไม่ได้ อาทิ

อาการตาล้า เพราะแสงสีฟ้าที่เราจ้องมองอยู่มีความสว่างมาก ส่งผลให้ดวงตาต้องทำงานหนักขึ้นกว่าเดิม
อาการตาแห้ง เนื่องจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บางชนิดมีขนาดเล็ก ทำให้ต้องใช้สายตาจ้องมองมากกว่าปกติ
จอประสาทตาเสื่อม การสัมผัสแสงสีฟ้าโดยไม่มีอุปกรณ์ป้องกัน ทำให้แสงสีฟ้าทะลุเข้าไปทำลายเซลล์รับแสงในจอประสาทตา ส่งผลให้เซลล์ดวงตาเสื่อมสภาพเร็วขึ้น และนำไปสู่อาการผิดปกติต่าง ๆ เช่น สายตาสั้น สายตาเอียง หรือสายตายาวเร็วขึ้น หากอาการรุนแรงมากอาจถึงขั้นสูญเสียการมองเห็น แม้บางคนไม่ได้บอดสนิทแต่ก็เป็นอุปสรรคในการดำรงชีวิตไม่น้อย